แหล่งสารสนเทศ (Information Sources) หมายถึง สถานที่ที่มีสารสนเทศสะสมอยู่ในรูปแบบที่หลากหลาย และเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถเข้าใช้สารสนเทศเหล่านั้นได้ตามต้องการ แหล่งสารสนเทศแบ่งได้ดังนี้
1. แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถานที่ ได้แก่ อนุสาวรีย์ โบราณสถาน อุทยานแห่งชาติ รวมถึงสถานที่จำลองด้วย เช่น ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ปราสาทหินพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นต้น แหล่งสารสนเทศเหล่านี้มีประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นแหล่งที่เข้าถึงได้ไม่ยากนัก
2. แหล่งสารสนเทศที่เป็นบุคคล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้รอบรู้ในสาขาต่าง ๆ ผู้ต้องการสารสนเทศจากผู้เชี่ยวชาญต้องใช้วิธีการสัมภาษณ์หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญนั้นโดยตรง เช่น ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ได้รับเลือกเป็นบุคคลดีเด่นของชาติ สาขาการแพทย์ บานเย็น รากแก่น ได้รับยกย่องเป็นราชินีลูกทุ่งหมอลำ เป็นต้น
3. แหล่งสารสนเทศที่เป็นเหตุการณ์ หรือสื่อมวลชน ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะข้อมูลแบบปฐมภูมิ ได้แก่ กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การประชุมการสัมมนาในเรื่องต่าง ๆ นิทรรศการหรืองานแสดงต่าง ๆ รวมทั้งเหตุการณ์สำคัญ ๆ เช่น การปฎิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นต้น รวมทั้งสาระความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ โดยวิธีการแพร่กระจายเสียง ภาพ และตัวอักษร ผ่านสื่อประเภทโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์
4. แหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ต เป็นแหล่งสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย สำนักข่าวสาร และสมาคมวิชาชีพ ต่างก็จัดทำข้อมูลประชาสัมพันธ์ออกมาเผยแพร่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้อินเทอร์เน็ตประกอบด้วยข้อมูลและสารสนเทศมากมาย
5. แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถาบัน
5.1 ห้องสมุด มีชื่อเรียกแตกต่างกันในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Library ซึ่งมาจากภาษาละตินว่า Libraria แปลว่า ที่เก็บหนังสือ มีรากศัพท์มาจากคำว่า Liber แปลว่าหนังสือ ห้องสมุดเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศหลายรูปแบบ ห้องสมุดแต่ละแห่งมีวัตถุประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน แต่จะมีความแตกต่างกันตามประเภทของห้องสมุดโดยมีบรรณารักษ์เป็นผู้บริหารงาน (สุวรรณ อภัยวงศ์ และคนอื่น ๆ. 2552 : 11-12)
5.1.1 วัตถุประสงค์หลักห้องสมุดโดยทั่วไปมี 5 ประการดังนี้
1) เพื่อการศึกษา (Education)
2) เพื่อข่าวสารความรู้ (Information)
3) เพื่อการค้นคว้าวิจัย (Research)
4) เพื่อความจรรโลงใจ (Inspiration)
5) เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ (Recreation)
5.1.2 ประเภทของห้องสมุด ซึ่งห้องสมุดนั้นสามารถจำแนกได้ 5 ประเภท ดังนี้
1) ห้องสมุดโรงเรียน (School Library) เป็นห้องสมุดที่ตั้งอยู่ในโรงเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมการเรียนการสอน สร้างเสริมนิสัยรักการอ่าน และการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองให้กับนักเรียน เพื่อเป็นพื้นฐานในการใช้ห้องสมุดอื่น ๆ
2) ห้องสมุดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย (College and University Library) เป็นห้องสมุดระดับอุดมศึกษา ห้องสมุดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ต่าง ๆ ที่เปิดสอนตามหลักสูตร งานวิจัย โดยให้บริการสารสนเทศให้แก่นิสิต นักศึกษา อาจารย์ บุคลากรของสถาบัน และรวมถึงให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชนอีกด้วย
3) ห้องสมุดเฉพาะ (Special Library) เป็นห้องสมุดที่จัดตั้งโดยหน่วยงานราชการ บริษัท สมาคม ธนาคาร ที่รวบรวมสารสนเทศเฉพาะในสาขาใดสาขาหนึ่ง และให้บริการเฉพาะบุคลากรในหน่วยงานของตนเอง หรือบุคคลผู้สนใจเฉพาะเรื่องนั้น ๆ เช่น ห้องสมุดธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
4) ห้องสมุดประชาชน (Public Library) เป็นห้องสมุดของท้องถิ่นหรือชุมชน โดยให้บริการกับบุคคลทั่วไปโดยไม่จำกัดเพศ เชื้อชาติ วัย และศาสนา และมุ่งเน้นให้ผู้ใช้บริการใฝ่หาความรู้ด้วยตนเอง ปลูกฝังให้มีนิสัยรักการอ่านและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเนื้อหาทรัพยากรที่มีให้บริการในห้องสมุดประชาชนนั้นจะมีครบทุกสาขาวิชา
5) หอสมุดแห่งชาติ (National Library) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2488 ตั้งอยู่ที่ท่าวาสุกรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศของชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีสาขาตามต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ จันทบุรี ลาดกระบัง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี บุรีรัมย์ ชลบุรี นครศรีธรรมราช ตรัง นครพนม ภูเก็ต ลำพูน กาญจนบุรี นครราชสีมา สงขลา เป็นต้น ให้บริการการศึกษาค้นคว้าภายในไม่อนุญาตให้ยืมวัสดุออกนอกหอสมุด
5.2 ศูนย์สารสนเทศ (Information Center) หมายถึง แหล่งที่รวบรวมและจัดเก็บสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา มีลักษณะคล้ายกับห้องสมุดเฉพาะ แต่จะมีประสิทธิภาพในการบริการครบถ้วนกว่า เช่น มีบริการแปล บริการยืมระหว่างห้องสมุด และแลกเปลี่ยนสารสนเทศทั้งภายในและระหว่างประเทศ เป็นต้น
5.3 ศูนย์ข้อมูล (Data Center) เป็นแหล่งรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งอยู่ในลักษณะตัวเลข หรือข้อมูลดิบในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานนั้นโดยตรงในการที่จะเผยแพร่และให้บริการ
5.4 ศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศ (Information Analysis Center) มีหน้าที่เลือกสรร ประเมิน จัดเก็บและนำเสนอข้อสารสนเทศเฉพาะวิชา ซึ่งไม่มีการตีพิมพ์ในที่ใดแต่จะมีประโยชน์ต่อกลุ่มบุคคลและนักวิชาการ
5.5 ศูนย์แจกจ่ายสารสนเทศ (Clearing House) เป็นหน่วยงานที่รวบรวม จัดเก็บ และให้บริการด้านอ้างอิง โดยให้บริการในลักษณะของบรรณานุกรม หรือดรรชนี เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงเอกสารได้อย่างรวดเร็ว
5.6 ศูนย์แนะนำแหล่งสารสนเทศ (Referral Center) หมายถึง หน่วยงานที่ให้บริการตอบคำถามแก่ผู้ใช้ โดยการแนะนำไปยังแหล่งสารสนเทศต่าง ๆ โดยศูนย์แนะนำแหล่งสารสนเทศนี้จะมีบรรณานุกรมหรือรายชื่อแหล่งสารสนเทศต่างๆ ที่จัดทำขึ้นและจะมีการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น